ดิจิมอนฟรอนเทียร์ เป็นภาพยนตร์อนิเมะซีรีส์อันดับที่ 4 ของดิจิมอน

เนื้อเรื่อง

ในเดือนเมษายนปี 2002 โลกดิจิตอลเวิลด์กำลังอยู่ในช่วงอันตรายเนื่องจากความเสียหายของแผ่นดินโลกดิจิตอลเวิร์ลหรือดิจิโค้ดได้หายไปหลายส่วนและหายไปอยู่เรื่อยๆ โลกดิจิตอลเวิร์ลถูกปกครองโดยดิจิมอนเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 3 ได้แก่เคลบีมอน เซราฟีมอนและโอฟานิมอนแต่ทว่าเซราฟีมอนเกิดทะเลาะกับเคลบิมอนเรื่องของเผ่าพันธุ์ จึงทำให้ความสมดุลของโลกดิจิตอลถูกทำลาย และเริ่มแบ่งแยกออกเป็นหลายๆส่วน ในสมัยก่อนนักรบในตำนานทั้ง 10 ซึ่งได้เป็นผู้ปกป้องโลกดิจิตอลเอาไว้ด้วยการสละชีวิตตนเอง

และในช่วงเวลาที่อันตรายนี้ พลังของนักรบในตำนานจะถูกถ่ายทอดไปยังเด็กๆอีกโลกหนึ่งคือโลกปัจจุบันนี้เอง เหล่าผู้กล้า ทาคุยะ และเพื่อนๆ ได้เข้ามายังโลกดิจิตอลด้วยหลายปัจจัย และพวกเขาสามารถเปลี่ยนตัวพวกเขาเองให้กลายเป็นดิจิมอนในระหว่างการเดินทางและการต่อสู้ เด็กๆที่ถูกเลือกทั้ง 5 คนได้เดินทางมายังโลกดิจิตอลผ่านเสียงขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพวกเขาได้พบกับดิจิมอน เพื่อค้นหา สปิริต

ซึ่งในโลกดิจิตอลที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่น่ากลัวและเต็มไปด้วยอันตราย และจากในตำนานสปิริต ได้ปกป้องโลกดิจิตอล ซึ่งทาคุยะ และเพื่อนๆได้รับสืบทอดพลังที่แข็งแกร่งเหล่านั้น และเป็นพลังที่ทำให้สามารถแปลงร่างเป็นดิจิมอนในตำนานได้ ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์และน่าท้าทายสปิริต ทั้ง 10 ประกอบไปด้วย ไฟ แสง น้ำแข็ง ลม สายฟ้า โดยทั้ง5อย่าง เคลบีมอนได้นำไปซ่อนในสถานที่ที่ต่างๆในดิจิตอลเวิร์ล และอีก 5 อย่างเคลบีมอนได้เก็บไว้ที่ตนเอง ได้แก่ ดิน น้ำ ไม้ โลหะ และความมืด

เทคก้าแมนเบลด เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น แนวแฟนตาซีวิทยาศาสตร์

เรื่องย่อ

ในปี 2087 มนุษย์ได้ทำการสร้างวงแหวนที่เรียกว่า สเปซริงค์ เพื่อป้องกันการรุกรานของมุนษย์ต่างดาว ราดัม แต่ผลที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการทำลายล้างของ กองกำลังเทคก้าเมนแห่งราดัมได้ เหลือเพียงกองกำลังบนพื้นโลกเป็นที่มั่นสุดท้าย

มุนษยชาติภายใต้การนำของไฮน์ริค ฟอน ฟรีแมน ได้ก่อตั้งหน่วยป้องกันพิเศษภายใต้ชื่อ สเปซไนท์ เข้าต่อสู้กับราดัม แต่ก็เพียงป้องกันไว้ได้ชั่วคราว จนในที่สุด เมื่อการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มนาม ดี-บอย ซึ่งเป็นนักรบเทคก้าแมนเบลด หนึ่งในเทคก้าเมนทั้ง 8 ที่มาเข้าร่วมกับกองทัพโลก ทำให้มนุษย์เริ่มมีความหวังในการต่อสู้มากขึ้น

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ

เรื่องย่อ

เอโดงาว่า โคนัน, โมริ รัน, และโมริ โคโกโร่ ได้รับเชิญจาก รายชื่อตัวละครในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน สึสึกิ ชิโร่ ให้มาที่เมืองโอซาก้า เพื่อช่วยปกป้องอิมพีเรียล อีสเตอร์ เอ้ก ไข่ที่กษัตริย์รัสเซียสั่งให้ทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่พระราชินี โดยเป็นใบที่ 51 หรือ เม็มโมรี่ เอ้ก ให้พ้นจากการขโมยของ จอมโจรคิด โดยได้รับความช่วยเหลือจาก นากาโมริ กินโซ, ฮัตโตริ เฮย์จิ, และตำรวจโอซาก้า แต่ถึงกระนั้น ด้วยแผนการอันชาญฉลาดของจอมโจรคิดและการคาดคะเนเวลาปรากฏตัวของจอมโจรคิดผิดพลาด เม็มโมรี่ เอ้กจึงตกอยู่ในมือของจอมโจรคิด แต่ในตอนที่จอมโจรคิดกำลังใช้เครื่องร่อนบินหนี ก็โดนบุคคลนิรนามยิงเข้าที่ตาขวาแต่โชคดีที่มีกระจกกันเอาไว้ ทำให้โคนันซึ่งตามจอมโจรคิดมาสามารถที่จะเก็บรักษาเม็มโมรี่ เอ้กไว้ได้ วันต่อมา เม็มโมรี่ เอ้กจึงถูกส่งกลับโตเกียวด้วยเรือของตระกูลสึสึกิเพื่อตรวจดูความเสียหาย

บุคคลที่อยู่บนเรือนอกจากพวกของโคนันแล้ว ได้แก่โคซากะ นัตสึมิ, ซาวาเบะ คุระโนสึเกะ ซึ่งเดินทางมาเพื่อบอกเรื่องราวเกี่ยวกับภาพร่างเม็มโมรี่ เอ้ก จากคุณตาทวดของเขา ทำให้โคนันและทุกคนทราบว่ามีเม็มโมรี่ เอ้กอีก 1 ใบอยู่ที่ปราสาทชิโยโกสึกะ นิชิโนะ มาซาโตะ, เซลเก้ ออฟตินนิคอฟ, อินุอิ โชอิจิ,โฮชิ เซรัน และซางาวะ ริว ซึ่ง 1 ในบุคคลเหล่านี้ก็มีสกอร์เปี้ยนรวมอยู่ด้วย บนเรือจึงเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น ซางาวะ ริว ถูกฆ่าโดยสกอร์เปี้ยนเนื่องจากไปล่วงรู้ความลับของสกอร์เปี้ยนโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงฆ่าปิดปากเขา โดยป้ายความผิดให้กับนิชิโนะ มาซาโตะ สารวัตรเมงูเระจึงต้องเดินทางมาพร้อมกับตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์บนเรือก็ทำให้รันและผู้หมวดชิราโทริเริ่มสงสัยในตัวโคนัน เมื่อบุคคลที่เหลืออยู่เดินทางมาที่ปราสาทชิโยโกสึกะ ก็เดินสำรวจปราสาท จนกระทั่งโคนันเจอทางลับใต้ดินของปราสาท ระหว่างเดินในทางใต้ดินก็เจอกับพวกเด็ก ๆ ที่ตกมาจากหอคอยเล็กข้างปราสาท ในทางใต้ดินนี้เอง ที่โคนันเจอกลไกและความลับของเม็มโมรี่ เอ้กที่ซ่อนไว้ แต่แล้วก็เกิดการฆาตกรรมและการขโมยเม็มโมรี่ เอ้กขึ้น โคนันจึงวิ่งตามคนร้ายไปบนปราสาทที่กำลังลุกไหม้เพราะฝีมือของสกอร์เปี้ยน โคนันได้เจอกับสกอร์เปี้ยนตัวจริงนั่นก็คือ โฮชิ เซรัน และไขคดีทั้งหมด โฮชิ เซรันพยายามฆ่าโคนันแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อโฮชิ เซรันถูกจัดการจนสลบไป ผู้หมวดชิราโทริก็เข้ามาช่วยโคนัน แต่ไฟก็โหมไหม้ปราสาทรุนแรง คนที่อยู่ทางใต้ดินก็ขึ้นมาหมดแล้ว เหลือเพียงคนที่อยู่ในปราสาทเท่านั้น

หลังเหตุการณ์ทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนรันที่สงสัยในตัวโคนัน ก็เลิกสงสัยเมื่อจอมโจรคิด ปลอมตัวเป็นคุโด้ ชินอิจิต่อหน้าโคนัน เพื่อช่วย โดยจอมโจรคิดก็ได้ทราบถึงตัวจริงของโคนัน ก็เพราะได้ติดตามดูท่าทางมาตลอด โดยปลอมตัวเป็นหมวดชิราโทริ

สถานที่ในเรื่อง

  • อพาร์ตเม้นท์ที่อายูมิอาศัยอยู่ ในตอนต้นเรื่อง ระหว่างที่อายูมิกำลังนอนหลับ จอมโจรคิดก็มาพักปีกที่ระเบียงของห้องอายูมิ อายูมิจึงได้พบกับจอมโจรคิด ก่อนโจรจอมคิดบินไป ก็ได้มอบจุมพิตที่มือของอายูมิไว้ด้วย
  • โรงเรียนประถมเทตัน โรงเรียนของโคนันและเพื่อนๆ อายูมินำเรื่องที่เจอจอมโจรคิดมาเล่าให้เพื่อนๆฟังที่นี่เอง
  • กองบัญชาการตำรวจ สถานที่จัดประชุม “การประชุมพิเศษเกี่ยวกับจอมโจรคิด” และเป็นสถานที่เปิดเผยจดหมายเตือนจากจอมโจรคิด
  • ปราสาทชิโยโกสึกะ ปราสาทของตระกูลโคซากะ สถานที่ซ่อนเม็มโมรี่ เอ้กใบที่ 2
  • เรือตระกูลสึสึกิ เรือที่ใช้นำเม็มโมรี่ เอ้กเข้าสู่โตเกียวเพื่อตรวจสภาพความเสียหาย บนเรือลำนี้เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นด้วย

สถานที่ในเมืองโอซาก้า

  • หอศิลป์ร่วมสมัยสึสึกิ หอศิลป์ที่จัดแสดงเม็มโมรี่ เอ้ก เจ้าของคือนายทุนสึสึกิ ชิโร่
  • หอคอยสึเทนคาคุ หอคอยสูงในเมืองโอซาก้า เป็นที่ส่องแสงสว่างในการพยากรณ์อากาศ สถานที่จอมโจรคิดปรากฏตัวตามจดหมายเตือน
  • ปราสาทโอซาก้า ปราสาทเก่าแก่เมืองโอซาก้า สถานที่ตำรวจคิดว่าจอมโจรคิดจะปรากฏตัวออกมาตามจดหมายเตือน
  • โรงไฟฟ้าย่อย เมืองโอซาก้า โรงไฟฟ้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้เมืองโอซาก้า จอมโจรคิดจึงต้องระเบิดที่นี่เพื่อให้โอซาก้าไฟดับทั้งเมือง
  • ภัตตาคารญี่ปุ่น คะเค ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นที่โมริ โคโกโร่และสึสึกิ ชิโร่นั่งรับประทานอาหารอยู่ขณะที่จอมโจรคิดลงมือขโมยเม็มโมรี่ เอ้ก
  • ย่านโดตงโฮริ ย่านวัยรุ่นของโอซาก้า รัน โซโนโกะ และคาซึฮะกำลังเดินเที่ยวที่นี่อยู่ในขณะที่จอมโจรคิดลงมือขโมยเม็มโมรี่ เอ้ก
  • กองบัญชาการตำรวจโอซาก้า สถานที่พวกโมรินั่งรถผ่าน ขณะที่กำลังไปหานายทุนสึสึกิที่หอศิลป์ร่วมสมัยสึสึกิ
  • โรงแรมและโรงพยาบาล เป็นโรงแรมและโรงพยาบาลที่อยู่ในแผนของจอมโจรคิด เพื่อหาที่ซ่อนของเม็มโมรี่ เอ้ก โรงแรมและโรงพยาบาลที่จอมโจรคิดกล่าวถึงคือ โอเอซากะ โรงพยาบาลนิคาโดะ โรงแรมโยชิมะ เซ็นจูรี่ ศูนย์รักษาพยาบาลฉุกเฉินเท็นมัง โรงแรมชาเนลเท็น โรงพยาบาลนางิวะทีเอ็มเอส คันไซ โฮเต็ล เวิลด์
  • อ่าวโอซาก้า หลังจากที่จอมโจรคิดถูกยิง ตำรวจก็คิดว่าจอมโจรคิดน่าจะตกไปในอ่าวแห่งนี้จึงออกค้นหาตลอดทั้งคืนแต่ก็ไม่พบ

อายชีลด์ 21 ไอ้หนูไต้ฝุ่นมะกันบอลเป็นอนิเมะ แนว กีฬา

เนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ โคบายาคาวา เซนะ เด็กนักเรียนมัธยมปลายปีหนึ่งของโรงเรียนเดมอน มีนิสัยขี้แหย อ่อนแอ ไม่กล้าขัดใจคนอื่น ความทรงจำตั้งแต่เด็กคือการเป็นลูกน้องของเด็กๆในวัยเดียวกันมาตลอด ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เซนะถูกใช้ให้ไปซื้อของ ใช้ให้ถือของไปส่ง จนกลายเป็นว่าเขาได้พัฒนาการวิ่งของตนเองจนเข้าขั้นนักวิ่งแข้งทองโดยที่แม้แต่ตนเองก็ยังไม่รู้ มีเพียง ฮิรุม่า โยอิจิ ประธานชมรมอเมริกันฟุตบอลผู้ชั่วร้ายได้ไปเจอเข้าและจัดการลักพาตัวเซนะมาแต่งองค์ทรงเครื่องซะใหม่ในชุดเบอร์ 21 และสวมอายชิลด์ (กระบังตา) ปลอมตัวให้เสร็จสรรพ และตั้งชื่อ “อายชิลด์ 21” เด็กนักเรียนสุดอ่อนแอจึงได้กลายเป็นฮีโร่ของอเมริกันฟุตบอลในเวลาต่อมาในตำแหน่งรันนิ่งแบ็ค

ในช่วงแรกเซนะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนในทีมในฐานะผู้ดูแลทีมอเมริกันฟุตบอลโรงเรียนเดมอนสลับกับการเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล โดยเริ่มแข่งครั้งแรกในการแข่งขันในฤดูใบไม้ผลิโดยหวังว่าจะเป็นอาวุธลับของทีม แต่สุดท้ายก็มาเจอทีมแกร่งอย่างโอโจไวท์ไนท์ที่พ้นยุคทองของทีมไปแล้ว แต่ก็ยังมีการพัฒนาฝีมืออย่างไม่หยุดนิ่ง และนั่นเป็นครั้งแรกที่เซนะได้พบกับไลน์แบ็คเกอร์ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อย่าง ชิน เซย์จูโร่ โดยผลการแข่งขันทีมโรงเรียนเดมอนพ่ายแพ้ไปในที่สุด

หลังจากพ่ายแพ้ไปในการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว ทีมโรงเรียนเดมอนได้เตรียมตัวเพื่อแข่งขันในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นการแข่งขันที่สำคัญที่สุดเพราะทีมที่ชนะจะได้ไปแข่งขันในศึก “คริสต์มาสโบว์ล” กับทีมที่ชนะในเขตคันไซ ฮิรุม่า คุริตะ และเซนะได้ค่อยๆสร้างทีมเดมอนทีละเล็กละน้อย โดยมีรีซีฟเวอร์อย่าง ไรมอน ทาโร่ หรือมอนตะ อดีตนักกีฬาเบสบอลที่ถนัดแค่การรับลูกเพียงอย่างเดียว คิกเกอร์ที่ก่อตั้งมากับพวกฮิรุม่าอย่าง ทาเคคุระ เก็น หรือ มุซาชิ ไลน์อย่างสามพี่น้อง หา หาประกอบด้วย จูมอนจิ คาซึกิ, คุโรกิ โคจิ และโทงาโน่ โชโซ กับ โคมุซึบิ ไดคิจิ ที่มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของคุริตะ ยูคิมิสึ มานาบุ ที่ไม่เก่งกีฬาแต่ถนัดเรื่องการวางแผนและการมองแผนการเล่นของฝ่ายตรงข้าม ทาคิ นัตสึฮิโกะ ที่เป็นตัวไทเอนด์ พร้อมกับน้องสาวอย่าง ทาคิ สึซึนะ ที่เป็นกัปตันเชียร์ลีดเดอร์ของทีม รวมทั้งอิชิมารุ เท็ตสึโอะที่ควบสองชมรม และนอกจากนี้ยังมีตัวช่วยจากชมรมบาสที่ถูกฮิรุม่าข่มขู่มาอย่าง ยามาโอกะ เคนตะ กับ ซาทาเกะ โยเฮ และจากชมรมซูโม่อย่าง โอมาซาดาเกะ ฟูโตชิ และมีเทรนเนอร์ที่เคยเป็นอาจารย์ของพวกฮิรุม่าสมัยมัธยมต้นอย่าง โดบุโรคุ ซาคากิ รวมทั้งผู้จัดการทีม อาเนซาคิ มาโมริ ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเซนะที่แก่กว่าเซนะหนึ่งปี ในศึกการแข่งขันกับโรงเรียนเทย์โคคุ เดมอนได้รับการฝึกสอนจากทีมออลสตาร์ แมนทูแมน คือเซนะสอนโดยชิน เซจูโร่ คุริตะ= กาโอ มอนตะ = อิ๊กคิว ยูคิมิตสึ = เท็ตสึมา ทาคิ=อาคาบะ อิชิมารุ=ริคุ โคะมุซึบิ=โอทาวาระ จูมอนจิ=คาเคอิ คุโรกิ=มิซึมาจิ โทงาโน่=บัมบ้า แล้วจึงเริ่มการฝึกสุดโหดจากโค้ชแมนทูแมน โดยที่ทุกคนทุ่มเต็มที่กับการฝึก แต่มอนตะซึ่งคิดถึงคุณฮอนโจคนที่ซึ่งเคารพ ต้องมาแข่งกับตัวเองโดยไม่ได้แข่งกับฮอนโจ มาซารุ แต่แข่งกับลูกของเขา ฮอนโจ ทากะ มอนตะจึงได้บอกกับฮิรุม่าโดยส่งอีเมลล์โดยจะขอออกจากทีม เผอิญว่าเซนะรู้เรื่องนี้จึงไปตามมอนตะ แล้วจึงคุยกัน แต่ทว่าระหว่างที่พูดเซนะเผลอไปทำถุงมือที่คุณฮอนโจ มาซารุให้กับมอนตะตกลงไปที่ใต้สะพานแล้วรถบรรทุกก็เหยียบถุงมือนั่นจนยับเยิน มอนตะจึงต่อยเซนะแล้วมอนตะจึงโกรธเซนะไปพักหนึ่ง แต่เซนะเป็นคนรักเพื่อนจึงวิ่งตระเวนหาถุงมือคนที่เคยแข่งกับมอนตะมาทั้งหมดแม้คนนั้นจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มอนตะจึงคิดได้แล้วขอบคุณเซนะ แล้วโยนถุงมือที่คุณฮอนโจ มาซารุให้มาลงทะเลเพื่อที่ตัวเองจะได้สู้กับลูกของเขาฮอนโจทากะได้อย่างเต็มที่และก็จะเหนือกว่าเขาให้ได้

ทีมชาติญี่ปุ่นและทีมชาติอเมริกา ได้รับรางวัลชนะเลิศร่วมกัน แต่ทั้งสองทีมได้ดำเนินการแข่งต่อเวลาเองโดยพลการ ผลการแข่งนั้นไม่มีการเปิดเผย และแพนเธอร์จากทีมชาติสหรัฐได้รับเลือกเป็น MVP ของการแข่งในภายหลัง

เซนต์เซย์ย่า โอเมก้า เป็นอนิเมะทีวีซีรีส์เซนต์เซย์ย่า

เนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องของภาคนี้เป็นอนาคตแบบหนึ่งของภาคหลักเท่านั้น เป็นอีกจักรวาลหนึ่งของเซย์ย่าที่เริ่มนับจากหนึ่งใหม่หมด เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ต่อจากภาคหลักในอีก 13 ปีให้หลัง ดำเนินเรื่องโดยตัวเอกคือ เพกาซัส โคกะ และตัวละครชุดใหม่เกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีตัวละครจากภาคหลักมาปรากฏตัวเป็นตำนานของเซนต์

ตัวละครหลัก

เพกาซัส โคกะ เด็กหนุ่มอายุ 13 ปี ผู้ซึ่งได้รับเพกาซัสคลอธ ต่อจากเซย์ย่าที่หายสาปสูญในระหว่างการต่อสู้กับมาร์ส มีนิสัยอ่อนโยน บางครั้งทำให้ดูเหมือนไม่สู้คน แต่เมื่อตกอยู่ในสภาวะขับคัน เขาสามารถเร่งพลังคอสโมได้อย่างปาฎิหารย์

ดราก้อน ริวโฮ เด็กหนุ่มอายุ 12 ปี ลูกชายของดราก้อนชิริว และ ชุนเรย์ ในวัยเด็ก ริวโฮได้ฝึกวิชากับชิริวที่น้ำตกโกโรโฮ และเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์ พาเลสตร้า ริวโฮ เป็นเซนต์ที่มีความสามารถสูงมากเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน ทว่าเขาต้องทนทุกข์กับปัญหาสุขภาพของตนที่เป็นตัวจำกัดความสามารถของเขา

ไลโอเน็ต โซมะ เด็กหนุ่มอายุ14 ปี เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโคกะ เป็นเพื่อนคนแรกของโคกะเมื่อครั่งที่โคกะเดินทางมายังพาเลสตร้า มีนิสัยร่าเริง ใจร้อนโซมะ มักสนิทสนมกับบรอนซ์เซนต์รุ่นก่อนอย่าง ยูนิคอร์น จาบุ หรือแม้แต่ แบร์ เงคิ โดยนับถือบรอนซ์เซนต์รุ่นก่อนเสมือนอาจารย์และรุ่นพี่ที่เคารพ

อคิวลา ยูนะ เด็กสาวอายุ 13 ปี สาวน้อยผู้มีเป้าหมายจะเป็นเซนต์ที่เก่งกาจ ในวัยเด็กเธอได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนโดย ซิลเวอร์เซนต์ พิค๊อก พาร์วิล แต่รู้สึกสับสนในกฎของเซนต์หญิงที่ต้องสวมหน้ากาก หลังจากได้พบกับโคกะจึงตัดสินใจเลิกที่จะสวมหน้ากาก

วูลฟ์ ฮารุโตะ เด็กหนุ่มอายุ 13 ปี บรอนซ์เซนต์ผู้ได้รับฉายา นินจาเซนต์ เนื่องจากการผสานศาสตร์ของนินจาเข้ากับวิชาการต้อสู้ของเซนต์ จนกลายเป็นรูปแบบการต่อสู้เฉพาะตัว

โอไรออน เอเดน เด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ผู้เชื่อมั่นในพลังของตน และไม่ใส่ใจในผู้อ่อนแอ เอเดน เป็นเซนต์ผู้แข็งแกร่งและมีพลังในระดับที่อาจารย์ของเขาอย่างโกลด์เซนต์ เลโอ มิเคเน่ ยังบอกว่าก้าวข้ามระดับบรอนซ์เซนต์ไปแล้ว อนึ่งเขาเป็นลูกชายของมาร์สและน้องชายของ ฮอร์เน็ต โซเนีย

อาเรีย เด็กสาวลึกลับผู้มีพลังคอสโม่แห่งแสงสว่าง แท้จริงแล้วเธอคือทารกหญิงที่อยู่ในหมู่บ้านบริเวณที่เกิดศึกระหว่างพวกเซย์ย่ากับมาร์สเมื่อ 13 ปีก่อน ในเหตุการณ์นั้นเธอรอดชีวิตมาได้เพราะซาโอริเข้าช่วย และได้รับพลังคอสโม่ของอาเธน่าไปในตอนนั้นนั่นเอง แต่ก็ถูกมาร์สลักพาตัวไปชุบเลี้ยงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือ อาเรียปรากฏตัวครั้งแรกโดยที่โคกะนึกว่าเธอเป็นอาเธน่า และทำให้โคกะได้รู้ว่าเธอถูกมาร์สใช้เป็นเครื่องมือในแผนการของตัวเอง พวกโคกะจึงจึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือเธออกมาเงื้อมมือของมาร์ส อาเรียได้บอกถึงแผนการของมาร์สที่สร้างโบราณสถานที่รวบรวมคอสโม่ธาตุต่างๆจากทั่วโลก เพื่อแผนการของตัวเอง และการจะทำลายโบราณสถานเหล่านั้นได้ จำเป็นต้องมีพลังของอาเรียด้วย เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปกับพวกเขา และทำให้พวกเขาต้องโดนไล่ล่าจากสมุนของมาร์ส รวมทั้งเซนต์ที่แปรพักต์ด้วย ในช่วงแรกอาเรียเป็นเด็กสาวที่อ่อนต่อโลก ไร้เดียงสา และค่อนข้างหวาดกลัวรอบข้าง แต่เมื่อได้เผชิญกับสิ่งต่างๆมากขึ้น จึงทำให้เธอเปิดใจ และกลายเป็นคนร่าเริงขึ้นมาก แต่ไม่นานเธอก็ถูกเอเดนพาตัวกลับไป การกลับไปครั้งนั้นเป็นชนวนทำให้เอเดนเริ่มคลางแคลงใจในตัวมาร์สมากขึ้น และเธอได้ขอร้องให้เอเดนพาไปยังโบราณสถานอัสนี และการพบกันของโคกะและอาเรีย ณ ที่นั่น ทำให้พวกเซนต์ถูกพาไปยังโบราณสถานอนธกาล ที่ๆทำให้ทุกคนต้องรับการทดสอบด้านจิตใจด้านลบของพวกตัวเอง อาเรียช่วยให้โคกะข้ามพ้นวิกฤติมาได้ แต่จู่ๆมาร์สก็ปรากฏตัวขึ้น และเข้าช่วงชิงพลังคอสโม่ของอาเรีย พวกโควงะเข้าปกป้อง และอาเรียก็ได้พลังจากคริสตัลธาตุต่างๆหลอมเป็นคฑาเข้าสู้กับมาร์ส แต่ก็พ่ายแพ้ และถูกมาร์สดูดพลังคอสโม่ชีวิตของเธอไปจนหมด อาเรียได้อำลาและฝากฝังความต้องการสุดท้ายของเธอ ก่อนจะใช้พลังสุดท้ายส่งพวกโคกะไปยังหอคอยบาเบลเพื่อขัดขวางแผนการของมาร์ส และในช่วงศึกสิบสองปราสาท ความนึกคิดสุดท้ายของอาเรียมีส่วนสำคัญทำให้เอเดนหันหน้าเข้าสู้กับมาร์ส และภายหลังจบศึก วิญญาณของอาเรียปรากฏตัวเพื่อกล่าวขอบคุณโคกะเป็นครั้งสุดท้าย

สึบารุ ตัวละครใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าในกลุ่มตัวเอกในซีซั่นสอง ปรากฏตัวครั้งแรกโดยท้าสู้กับโควกะและช่วยโควกะสู้กับทารูวัลและคอยติดตามโควกะ ก่อนจะรับคล็อธเออคิวเลอุสและลกายเป็นเซนต์อย่างเต็มตัวมีความฝันอยากจะเป็นพระเจ้า ภายหลังถูกยูโรป้าล่อล่วงจนทำให้กลับไปเป็นเทพนามแซนเทิร์น

พัลลัส อธีน่า พัลลัสคือเทพธิดาตามปกรณัมของกรีกโบราณ พัลลัส ปรากฏตัวภายหลังจบศึกการต่อสู้กับเทพแห่งความมืดอาพุส ในร่างของเด็กผู้หญิงผิวคล้ำ โดยที่ซาโอริมีนิมิตว่านางจะเป็นผู้นำสงครามและความวุ่นวายครั้งใหม่มาสู่โลก จึงให้เซย์ย่านำกริชทองคำไปสังหารนางเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม แต่สุดท้ายเซย์ย่าก็ตัดใจทำไม่ได้ และนางก็ถูกไททันที่ปรากฏตัวพาไป พัลลัสใช้วงแหวนพันธะที่ปรากฏขึ้นบนแขนซ้ายของตน คอยดูดพลังชีวิตจากซาโอริอยู่เรื่อยๆ เพื่อกลับสู่ร่างสมบูรณ์ของตนเอง ซึ่งวงแหวนนี้จะคอยดูดพลังชีวิตของเธอไปจนหมด ระยะเวลาที่เป็นเส้นตายนั้นคือเวลาหนึ่งปี ปัจจุบันพาลลัสยังอยู่ในความคุ้มครองของพวกพาราไซท์ เป้าหมายของนางคือการกำจัดมนุษย์ให้หมด เพื่อให้ความรักของอาเธน่านั้นมีแก่ตนเพียงผู้เดียว และได้อยู่ด้วยกันดั่งเช่นสมัยเทพนิยาย หลังจากพ่ายแพ้ให้กับอาเธน่าก็ได้ปรับความเข้าใจกัน จนสามารถกลับมาคืนดีกันได้ แต่ก็ถูกยูโรป้าปรากฏตัวขึ้นมาและช่วงชิงพลังคอสโม่เพื่อคืนชีพให้แก่แซทเทิร์นไปเสียก่อน หลังจากสงครามยุติ พาลลัสได้ออกเดินทางพร้อมกับไททันด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและบ่มเพาะผู้คนด้วยความรัก พร้อมสร้างอนาคตไปกับพวกเขา